หนึ่งในผลงานเพลง Orchestra ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งได้ประพันธ์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผู้ฟังรุ่นเยาว์ซึ่งประพันธ์โดย Benjamin Britten มีชื่อว่า The Young Person’s Guide to the Orchestra - Variations and Fugue on a theme by Purcell Op. 34 โดยใช้ทำนองหลักของ Purcell’s จากบทเพลงAbdelazer (The Moor’s Revenge) ซึ่งเริ่มต้นและจบลงด้วยการ overview ของเครื่องดนตรี Orchestra ทั้งหมด สอดแทรกด้วยการสาธิตความสามารถของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ผลงานชิ้นนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักประพันธ์เพลง และจัดเป็น 1 ใน 3 ผลงานเพลงยอดนิยม ที่ถูกนำมาใช้สำหรับสอนวิชาดนตรีให้กับเยาวชน ร่วมกันกับอีก 2 บทเพลงคือ Saint-Sa?ns' The Carnival of the Animals และ Prokofiev's Peter and the Wolf.
บริทเทนทำงานให้กับ Crown Film Unit ที่ๆซึ่งเขาได้ประพันธ์บทเพลง The Young Person’s Guide to the Orchestra - Variations and Fugue on a theme by Purcell Op. 34 สำหรับภาพยนตร์สารคดี เรื่อง Instruments of the Orchestra ซึ่งบริการงานโดย BBC เพื่อใช้สำหรับการศึกษาวิชาดนตรีสำหรับเยาวชน เขาเริ่มต้นแต่งบทเพลงนี้ในช่วงกลางเดือนธันวาคม ปี 1945 จนกระทั่งถึงเที่ยงคืนของคืนก่อนวันปีใหม่ ถึงแม้ว่าภาพยนตร์สารคดีชุดนี้ได้ออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ปี 1946 ภายใต้การแสดงโดยวง London Symphony Orchestra ภายใต้การควบคุมวงและบรรยายโดย Malcolm Sargent ผลงานชิ้นนี้ได้รับการเผยแพร่สู่บุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรกเมื่อ 15 ตุลาคม 1946 ภายใต้การแสดงของวง Liverpool Philharmonic Orchestra ควบคุมวงโดย Malcolm Sargent และมี Eric Crozier เป็นผู้บรรยาย ผู้บรรยายมีหน้าที่พรรณาบทบาทและลักษณะเด่นของเครื่องดนตรีออร์เคสตราในแต่ละส่วน ซึ่งจะแสดงออกด้วยการแสดงความสามารถอย่างหลากหลายด้วยผลงานของบริทเทนผลงานชิ้นนี้เป็นที่นิยมและได้รับการแสดงซ้ำอย่างสม่ำเสมอโดยปราศจากผู้บรรยายที่จะต้องแนะนำเครื่องดนตรีให้กับผู้ฟังเพื่อได้รู้จักกับเครื่องดนตรีของวงออร์เคสตราอีกต่อไป
บทบรรยายถูกแต่งขึ้นโดยเพื่อนของบริทเทนที่ชื่อว่า Eric Crozier เพื่อให้ถูกบอกเล่าโดยผู้ควบคุมวงหรือผู้บอกเล่าต่างหาก ตลอดระยะเวลาของการแสดง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว บริทเทนได้แต่งเพลงนี้ไว้ 2 แบบ คือแบบมีผู้บรรยายและแบบไม่มีผู้บรรยาย แต่แบบที่ไม่มีผู้บรรยายกลับได้รับความนิยมมากกว่าแบบที่มีผู้บรรยาย
ถึงแม้ว่าผู้ประพันธ์จะไม่มีบุตรเป็นของตนเอง แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ปรากฏ เขาได้แต่งบทเพลงนี้เพื่อจารึกด้วยความรักแด่เด็กๆของ John and Jean Maud - Humphrey, Pamela, Caroline และ Virginia เพื่อใช้สำหรับการขัดเกลาจิตใจ และเพื่อความเพลิดเพลิน
The Young Person’s Guide to the Orchestra - Variations and Fugue on a theme by Purcell Op. 34 ถูกแต่งขึ้นเพื่อแสดงความสามารถในแต่ละส่วนของเครื่องดนตรี อย่างไรก็ตาม [บริทเทน]]ได้มองการณ์ไกล จึงได้แต่งบทเพลงนี้เผื่อไว้เพื่อให้เครื่องดนตรีแต่ละชนิดสามารถที่จะแสดงได้โดยไม่ต้องมีผู้บรรยาย แต่กระนั้นบทเพลงนี้ก็ยังคงหลงเหลือเสน่ห์และความน่าสนใจกับเยาวชนและผู้ที่ยังมีความเป็นเด็กอยู่ในจิตใจ
ผู้ประพันธ์ ได้ประพันธ์แต่ละส่วนของบทเพลง ได้อย่างพิเศษที่สุดเพื่อแนะนำ ให้ผู้ฟังได้รู้จักกับเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงสำหรับบทเพลงออร์เครสตรา โดยมีผู้เล่น 4 ส่วน
ผลงานนี้อ้างอิงแนวเพลงจากเพลง Abdelazar ซึ่งประพันธ์โดยเฮนรี เพอร์เชลล์ซึ่งจะเล่นโดยเครื่องดนตรีวงออร์เคสตราทั้งหมดในตอนต้นเพลง และต่อเนื่องมาด้วยการแสดงเป็นส่วนๆโดยแบ่งตามประเภทของเครื่องดนตรี โดยเริ่มจาก เครื่องเป่าลมไม้ตามมาด้วยเครื่องลมทองเหลืองและเครื่องสายและปิดท้ายด้วยการแสดงของเครื่องประกอบจังหวะ
หลังจากผ่านช่วงแนะนำความแตกต่างของดนตรีแต่ละประเภทแล้วก็จะกลับมาซ้ำใหม่ในช่วงต้นเพลง คราวนี้จะเริ่มเจาะลึกลงไปให้รู้จักเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นของเครื่องดนตรีในแต่ละประเภท ด้วยความหลากหลายในแนวเพลงที่แสดงโดยเครื่องดนตรีทีละชนิด แม้ว่าจะเริ่มต้นด้วยการนำเสนอด้วยปิคโคโลและฟลูทแต่ภายใต้โครงสร้างของบทเพลงที่จัดการโดย harp และทีมเครื่องสาย สมาชิกของตระกูลเครื่องเป่าลมไม้จะบรรเลงในช่วงของแต่ละชนิดเครื่องดนตรี เน้นหน่วยเสียงของแต่ละเครื่องดนตรี และรูปแบบนี้ก็จะถูกทำแบบเดียวกันเมื่อถึงคราวแสดงของทีมเครื่องสาย ทีมเครื่องเป่าทองเหลือง และทีมเครื่องประกอบจังหวะ เดินบทเพลงผ่านความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงของเครื่องดนตรีของตน
เมื่อเครื่องดนตรีทั้งหมดได้แสดงแล้ว ก็กลับมาร่วมกันบรรเลงเพลงประกอบด้วยลูกเดี่ยวจากเครื่องดนตรีแต่ละชนิด ซึ่งเริ่มด้วยปิคโคโลตามมาด้วยเครื่องเป่าลมไม้ทั้งหมด เครื่องสาย เครื่องเป่าทองเหลืองและเครื่องประกอบจังหวะ เมื่อครบแล้วเครื่องเป่าทองเหลืองจะเริ่มบรรเลงเพลงดั้งเดิมของเพอร์เชลล์ขณะเดียวกันพวกที่เหลือจะแสดงต่อเนื่องเพลงประกอบด้วยลูกเดี่ยวจากเครื่องดนตรีแต่ละชนิด จนกระทั่งชิ้นสุดท้ายได้แสดงเสร็จก็จะถึงช่วงจบที่เรียกว่าฟอร์ติสสิโม(ให้เล่นดังเต็มที่)
เริ่มต้น ท่านจะได้ยินทำนองหลักของเพลงซึ่งประพันธ์โดยนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ชาวอังกฤษเฮนรี เพอร์เชลล์บรรเลงร่วมกันโดยเครื่องดนตรีทุกชิ้นของวงออร์เครสตรา และแต่ละกลุ่มของเครื่องดนตรีทั้ง 4 กลุ่ม
เครื่องเป่าลมทองเหลืองชิ้นแรกคือทรัมเปต และแตรล่าสัตว์ ซึ่งยังคงสืบทอดรูปแบบอันทันสมัยสืบต่อกันมา
เครื่องสายทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ใช้การดีดด้วยที่ดีดหรือนิ้วมือ ในขณะที่ ฮาร์ป ใช้การดึงสายเสมอ
กลุ่มของเครื่องประกอบจังหวะ รวมทั้งกลอง ฆ้อง รำมะนาและทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถใช้เคาะหรือตี เมื่อคุณได้ยินมันแสดงผ่านไปแล้ว เครื่องดนตรีออร์เคสตราทั้งหมดก็จะกลับไปเริ่มบทเพลงใหม่อีกครั้ง
ต่อจากนี้ขอเชิญพวกเราได้ฟังเสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นบรรเลงบทเพลงแปรในรูปแบบของตัวเอง ทำนองหลักที่สูงที่สุดของเครื่องเป่าลมไม้คือเสียงใสๆ หวานๆของฟลูท พร้อมกับเสียงแหลมของน้องเล็กที่ชื่อ ปิคโคโล
ปี่โอโบให้น้ำเสียงที่นุ่มนวล คุณภาพเสียงที่เรียบง่ายแต่ก็มีความจริงจังเพียงพอเมื่อผู้ประพันธ์ต้องการ
บาสซูนมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเครื่องเป่าลมไม้ทั้งหมด ดังนั้นจึงมีเสียงที่ทุ้มลึกมากที่สุด
ตระกูลเครื่องเป่าลมทองเหลืองเริ่มต้นด้วยแตร พวกมันสร้างมาจากท่อทองเหลือง ที่นำมาขดเป็นวงกลม
เครื่องกระทบมีจำนวนมากมายมหาศาลเราไม่สามารถเล่นมันได้ทั้งหมด ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุ้นเคยกันดี เริ่มจาก "เคทเทลดรัม" หรือที่เรียกกันประจำว่า ทิมปานี
We have taken the whole Orchestra to pieces. Now let us put it together as a Fugue. The instruments come in one after another, in the same order as before - beginning with the Piccolo. At the end, the Brass will play Henry Purcell's fine melody, while the others go on playing Benjamin Britten's Fugue.
เราได้รับรู้ถึงเครื่องดนตรีออร์เครสตราทั้งหมดทีละชิ้นไปเรียบร้อยแล้ว บัดนี้เราจะรวมมันเข้าทั้งหมดด้วยเพลงประกอบลูกเดี่ยวจากเครื่องดนตรีแต่ละชนิด หลังจากนั้นจะรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับที่เคยเล่นมาก่อนหน้านี้ เริ่มต้นด้วยปิคโคโล และในตอนจบเครื่องทองเหลืองจะบรรเลงเพลงของเฮนรี เพอร์เชลล์อีกครั้ง ในขณะเดียวกันเครื่องดนตรีอื่นๆก็จะดำเนินเพลงลูกเดี่ยวของแต่ละเครื่องดนตรีด้วยบทเพลงของบริทเทนต่อไป
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/The_Young_Person’s_Guide_to_the_Orchestra